OPPO เร่งพัฒนา บริการหลังการขาย มอบความสะดวกสบายที่เหนือกว่าแก่ลูกค้า

OPPO เร่งพัฒนา บริการหลังการขาย มอบความสะดวกสบายที่เหนือกว่าแก่ลูกค้า

ออปโป้ (OPPO) ประกาศถึงเร่งพัฒนาแคมเปญ “Care & Reach” แคมเปญ บริการหลังการขาย เพื่อที่จะมอบความสะดวกสบายที่เหนือกว่าแก่ลูกค้า OPPO เปิดตัวแคมเปญ “Care & Reach” แคมเปญ บริการหลังการขาย เพื่อมุ่งมอบประสบการณ์การค้นหาศูนย์บริการ OPPO Service Center ที่ง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ตามคอนเซ็ปต์หลักของแคมเปญ “Care & Reach” โดยเปิดตัวแล้วตั้งแต่ในวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ซึ่งนับเป็นเวลา 1 เดือนที่ได้เปิดตัวกว่า 15 ประเทศในทั่วทั้งภูมิภาค

โดยในระหว่างแคมเปญ OPPO ได้สำรวจถึงความคิดเห็นของผู้ใช้ด้านบริการหลังการขายที่แตกต่างกันในแต่ละศูนย์บริการ 

ซึ่งพบว่ามีผู้ใช้จำนวนมากเชื่อว่า การมีขั้นตอนการเข้ารับบริการที่ไม่ยุ่งยาก จุดบริการที่หลากหลาย และการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ จะสามารถมอบความสะดวกสบายในการเข้ารับบริการให้แก่ผู้ใช้งานได้ โดยยิ่งผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการหลังการขายได้ง่ายเท่าไหร่ ผู้ใช้ก็จะชื่นชอบแบรนด์มากขึ้นเท่านั้น

จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้คนใช้เวลานอกบ้านลดน้อยลง และยังคงรักษาระยะห่างทางสังคม ซึ่งถือเป็น New Normal ของผู้คนในสังคมทั่วโลก ทำให้ผู้คนเริ่มพิจารณาบริการหลังขายที่มีความสะดวกสบายและเข้าถึงได้เป็นหนึ่งข้อสำคัญในการเลือกซื้อสินค้า จากการเปลี่ยนแปลงนี้ OPPO จึงเร่งสร้างบริการหลังการขายแบบไร้สัมผัส เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภค โดยจากสถิติของ OPPO ระบุว่า มีผู้ใช้ OPPO ทั่วโลกได้รับประสบการณ์การบริการแบบไร้สัมผัสแล้วกว่า 100 ล้านครั้งในปี 2563

OPPO พัฒนาช่องทางการให้บริการหลังขาย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้ารับบริการและแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็น แอปพลิเคชัน คอลเซ็นเตอร์ และโซเชียลมีเดีย โดยผู้ใช้สามารถค้นหาคำตอบของปัญหาง่ายๆ ได้จากคำถามที่พบบ่อย หรือติดตามข้อมูลข่าวสารล่าสุดในด้านการบริการได้ที่เพจเฟสบุ๊ค OPPO Care

 พร้อมทั้งสามารถสอบถามวิธีแก้ไขปัญหาจากผู้เชี่ยวชาญผ่านทางคอลเซ็นเตอร์ หรือ live chat บนเว็บไซต์ และหากผู้ใช้ต้องการเข้ารับบริการหลังขายที่ศูนย์บริการ ก็สามารถค้นหาศูนย์บริการ OPPO Service Center ที่ใกล้ที่สุดได้บนเว็บไซต์ หรือ แอปพลิเคชัน MY OPPO

นอกจากนี้ OPPO ยังมีบริการการรับ-ส่งเครื่องซ่อมผ่านออนไลน์ โดยผู้ใช้สามารถแจ้งรับเครื่องซ่อมได้ที่เว็ปไซต์หรือแอปฯ MY OPPO ในการส่งเครื่องซ่อมไปที่ศูนย์บริการ OPPO Service Center และสามารถติดตามสถานะซ่อมได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งถือเป็นทางเลือกใหม่ที่ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องออกจากบ้าน พร้อมลดความยุ่งยากในการส่งเครื่องซ่อมอีกด้วย

OPPO เป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญต่อประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้มากที่สุด จึงมุ่งพัฒนาการบริการ เพื่อมอบความสะดวกสบายที่มากยิ่งขึ้น พร้อมการบริการที่มีคุณภาพมากขึ้นให้แก่ผู้ใช้ในอนาคต

โดยการบริการต่างๆ อาจมีความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการ OPPO Service Center ใกล้บ้านคุณ หรือโทรสอบถามได้ที่ OPPO Call Center: (02)126-3700

ADOBE MAX 2021: ปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์ ด้วย ครีเอทีฟคลาวด์เน็กซ์เจน

ADOBE MAX 2021: นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์สำหรับ “ทุกคน” ด้วย ครีเอทีฟคลาวด์เน็กซ์เจน (Next-Gen of Creative Cloud) อะโดบีเปิดตัวนวัตกรรมบน Creative Cloud ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Adobe Sensei เร่งการสร้างวิดีโอและการทำงานร่วมกันของฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ด้วยการเพิ่ม Frame.io, พัฒนาต่อยอดเทคโนโลยี 3D และ Immersive พร้อมพรีวิว Photoshop และ Illustrator บน “เว็บ” 

ซานโฮเซ่, แคลิฟอร์เนีย—26 ตุลาคม 2564— อะโดบี (Nasdaq: ADBE) เปิดงาน Adobe MAX 2021 ซึ่งเป็นการประชุมด้านครีเอทีฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมนำเสนอนวัตกรรมที่หลากหลาย ครอบคลุมแอพพลิเคชั่นหลักๆ ของ Creative Cloud และมีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ สำหรับการทำงานร่วมกัน ซึ่งจะยกระดับงานสร้างสรรค์สำหรับลูกค้าหลายล้านคนทั่วโลก ตั้งแต่นักศึกษา ไปจนถึงครีเอเตอร์บนโซเชียลมีเดีย และมืออาชีพด้านงานครีเอทีฟ 

ที่งาน Adobe MAX อะโดบีได้นำเสนออัพเดตสำคัญๆ สำหรับแอพพลิเคชั่นเรือธงบน Creative Cloud ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Adobe Sensei มีการเพิ่ม Frame.io, เทคโนโลยี 3D และ Immersive ขั้นสูง เพื่อเพิ่มความรวดเร็วให้กับขั้นตอนการสร้างวิดีโอ  นอกจากนี้ อะโดบียังนำเสนอพรีวิวสำหรับเทคโนโลยีการทำงานร่วมกัน โดยมีการเปิดตัว Creative Cloud Canvas, Creative Cloud Spaces และรุ่นเบต้าของ Photoshop และ Illustrator บน “เว็บ” 

เพื่อรองรับโครงการ Content Authenticity Initiative อะโดบีได้นำเสนอ Content Credentials ใน Photoshop ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่สามารถเลือกใช้เพื่อแสดงข้อมูลอัตลักษณ์ของผู้สร้างหรือครีเอเตอร์ รวมถึงประวัติการแก้ไข ซึ่งจะช่วยให้ครีเอเตอร์ได้รับเครดิตจากผลงานของตนเอง  นอกจากนั้น Content Credentials ยังเชื่อมต่อกับตลาด NFT อีกด้วย และพร้อมกันนี้ อะโดบีได้ปรับใช้รูปแบบการสมัครสมาชิกสำหรับ Behance เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์มีรายได้จากผลงานของตน 

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป